ต้นข้าวสารและต้นขจร
ดอกข้าวสาร
การขยายพันธุ์ต้นข้าวสาร
ปกติก่อนผมจะไปทำงานผมจะแวะเข้าไปวัดหลวงพ่อโตก่อน ไม่ได้เข้าไปทำบุญหรอกครับ แต่เข้าไปหาอะไรกินบ้าง
เข้าไปทำบุญบ้างบางครั้ง และเข้าไปหาดูโน่นดูนี้บ้าง ตามประสาคนว่าง
และแล้ววันหนึ่งผมก็เจอเจ้าดอกข้าวสารจนได้
พืชชนิดนี้ผมอยากได้มากและพยายามหาพันธุ์ก็หายากเต็มที
ถามตามสวนคนที่รู้จักก็บอกว่าโดนยาฆ่าหญ้าตายหมดแล้ว ผมได้แต่นึกในใจว่า “ยังไงดีถึงจะได้อนุรักษ์พืชชนิดนี้ไว้” เพราะทราบว่าต้นดอกข้าวสารเวลาเค้าออกดอกจะมีกลิ่นหอม
แถมดอกและฝักก็กินได้ด้วย เป็นทั้งไม้กินได้และไม้ประดับไปในตัว น่าปลูก ๆ
ผมเลยถามแม่ค้าว่า
มัดเท่าไหร่ครับดอกข้าวสาร แม่ค้าบอกว่ามัดละ 15 บาทผมเลยจัดการซื้อมาเลย 2 มัด เมื่อมาถึงที่ทำงาน
ผมก็จัดการถ่ายรูปเก็บข้อมูลไว้ตามประสาคนชอบเกษตรและก็จัดการเอาใบออก
เลือกเถาที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป เพื่อที่จะได้ทำการทดลองชำดู
ในใจได้แต่นึกว่าจะชำติดไหมหนอ แต่ก็คิดว่าเอาน่าไม่ลองไม่รู้ เลยเอาเถามาแช่ในสารเพิ่มรากบีหนึ่ง
ที่จริงสารIBAและสารNAAของผมก็มี แต่ก็ไม่ได้นำมาใช้ในการชำครั้งนี้
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ฝักขจร (ผักสลิด,ผักขิก)
สาเหตุที่ผมเอาต้นขจรมาเขียนรวมกับต้นข้าวสารก็เพราะว่าฝักขจรกับฝักข้าวสารสารมีรูปร่างคล้ายกันมาก
แทบจะแยกไม่ออก แถมรสรสชาติของฝักก็เหมือนกันอีกต่างหาก ต้นขจรบางที่แรกว่าผักขจร ผักสลิดหรือผักขิก
เป็นไม้เถาเลื้อยเหมือนกันกับต้นข้าวสาร มีกลิ่นหอมเหมือนกันแต่หอมคนละแบบ
พันธุ์ที่ผมปลูกเล่น ๆ ไว้กินในครัวเรือนมีอยู่สองพันธุ์คือพันธุ์ฝักจะออกดอกและติดฝักปีละครั้ง
และก็พันธุ์ดอกจะออกดอกเหมือนกันและดอกใหญ่แต่ยังไม่เคยเห็นติดฝักซักกะที
ได้แต่เอาดอกมาผัดดและลวกกิน
การขยายพันธุ์ต้นขจรนี้ผมลองขยายพันธุ์ทั้งแบบเพาะเมล็ดและแบบชำ
แต่แบบชำเป็นวิธีที่ขยายพันธุ์ได้เร็ว
การชำต้นขจรนี้ผมลองชำทั้งแบบชำลงดินและแบบลงขวดน้ำ ผลที่ได้ใกล้เคียงกันครับ แต่ผมชอบแบบชำลงน้ำมากว่าครับ
การขยายพันธุ์ต้นขจรด้วยการชำน้ำ
การขยายพันธุ์ต้นขจรด้วยการชำน้ำ
2.ใบออกให้หมดเพื่อป้องกันการคลายน้ำ
3.นำลงในขวดที่มีน้ำโดยจุ่มลงประมาณหนึ่งข้อนิ้วมือ
4.หาสำลีมาอุดตรงปากขวด
5.คอยดูระดับน้ำทุกหนึ่งถึงสองวัน
ถ้าน้ำลดให้เติมน้ำลงให้ได้ปริมาณเท่าเดิม
6.เมื่อเห็นว่าออกรากแล้วเอาลงอนุบาลในดินโดยช่วงแรก
ๆ ต้นไว้ในร่มก่อน
7.เมื่อเห็นว่าต้นสมบูรณ์แตกใบดีแล้วจึงเอาลงปลูก